/ ประวัติความเป็นมา

สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์กว่าจะเป็นวันนี้

๙ พฤษภาคม ๒๕๔๓ พลตรีชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก/รองนายกสมาคมฯ เสนอโครงการสร้างเกียรติและศักดิ์ศรีของสมาคมฯ ต่อคณะกรรมการอำนวยการ ชุดที่ ๒๒ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๔๓

โดยเสนอเรื่องการขอพระราชทานให้สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในความอุปการะของกระทรวงกลาโหม อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ ด้วยเหตุผลสำคัญ คือ

๑.เป็นสมาคมฯที่มีสมาชิกผู้ทรงคุณวุฒิที่มีชื่อเสียงและสร้างคุณประโยชน์ให้สังคมในด้านการแพทย์และสาธารณสุขจำนวนมาก

๒. เป็นสมาคมฯ ที่ก่อตั้งมาเป็นเวลากว่า ๔๐ ปี ปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ ๓,๐๐๐ นาย เป็นองค์กรที่มีฐานะมั่นคงและดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง

๓. สมาชิกสมาคมฯ หลายท่านได้มีโอกาสถวายงานพระบรมวงศานุวงศ์รับใช้เบื้องยุคลบาทโดยใกล้ชิด

Image
  • ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๔๓ พลอากาศโทอวยชัย เปลื้องประสิทธิ์ นายกสมาคมฯ ทำหนังสือเสนอท่านราชเลขาธิการ ขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณให้สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ (หนังสือ พ.ท.ท ที่ ๑๑๔/๒๕๔๓ ลง ๒๘ ก.ค. ๔๓)

  • ๘ สิงหาคม ๒๕๔๓ พลตรีชูฉัตร กำภู ณ อยุธยา รองเจ้ากรมแพทย์ทหารบก/รองนายกสมาคมฯ แจ้งผลการประสานงานกับสำนักราชเลขาธิการ ที่ให้สมาคมฯ เสนอเรื่องขอพระราชทานให้สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในความอุปการะของกระทรวงกลาโหม อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์

  • ๘ ธันวาคม ๒๕๔๓ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีหนังสือแจ้งให้ส่งรายละเอียดการดำเนินงานของสมาคมฯ เพิ่มเติม เพื่อพิจารณาและให้ความเห็นต่อสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (หนังสือ ศธ ที่ ๑๔๐๕/๗๗๑๕ ลง ๘ ธ.ค. ๔๓)
  • ๑๙ มกราคม ๒๕๔๔ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ มีหนังสือแจ้งให้สมาคมฯ ส่งข้อมูลรายละเอียดประกอบการขอพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณ ให้สมาคมฯ อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตเชิญพระมหาพิชัยมงกุฎประกอบเป็นตราสัญลักษณ์สมาคมฯ (หนังสือ ศธ ๑๔๐๕/๐๕๘๔ ลง ๑๙ ม.ค. ๔๔)

  • ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๔๔ สำนักราชเลขาธิการ แจ้งให้ทราบว่าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย อยู่ในพระบรมราชูปถัมภ์ และ พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระมหาพิชัยมงกุฎประกอบเป็นตราสัญลักษณ์ของสมาคมฯ ตามที่ขอพระมหากรุณา ตั้งแต่วันที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔ (หนังสือ รล ๐๐๐๓/๙๘๔๐ ลง ๑๔ ก.ค. ๔๔)

  • ๑๔ สิงหาคม ๒๕๔๔ ที่ประชุมคณะกรรมการอำนวยการ ครั้งที่ ๕/๒๕๔๔ เห็นชอบให้กำหนดชื่อสมาคมฯ ไว้ดังนี้ “สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” หรือชื่อในภาษาอังกฤษ “The Association of Millitary Surgeons of Thailand Under The Royal Patronage of His Majesty The King”

  • ๖ กันยายน ๒๕๔๔ พลอากาศโทอวยชัย เปลื้องประสิทธิ์ นายกสมาคมฯ ทำหนังสือแจ้งผู้อำนวยการสำนักนโยบายและแผน กระทรวงกลาโหมเปลี่ยนแปลงคำลงท้ายชื่อสมาคมฯ จากเดิม “สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในความอุปการะของกระทรวงกลาโหม” เป็น “สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์” (หนังสือ ที่ พทท ๑๑๐/๒๕๔๔ ลง ๖ ก.ย. ๔๔)

  • ๒๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕ ที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี ครั้งที่ ๔๔ เห็นชอบให้แก้ไขข้อบังคับสมาคมฯ ในเรื่องชื่อและสัญลักษณ์สมาคมฯ ตามที่คณะกรรมการอำนวยการเสนอ

/ บันทึกของเลขาธิการ

เนื่องจากในปัจจุบันนี้ การแพทย์ทหารของประเทศไทยได้มีการปรับปรุงกิจกรรมต่างๆให้เจริญก้าวหน้ากว้างขวางยิ่งกว่าในสมัยก่อนเป็นอันมาก เพื่อให้ได้ส่วนสัมพันธ์กับการขยายตัวของกองทัพ ย่อมเป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า การแพทย์ทหารนั้นมีลักษณะผิดแผกไปจากการแพทย์พลเรือนอยู่หลายประการ นอกจากนั้น การแพทย์ของแต่ละกองทัพ คือ กองทัพบก และกองทัพอากาศ ก็ยังแตกต่างกันในด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับยุทธวิธี นายแพทย์ใหญ่และผู้ชำนาญการทั้งสามกองทัพ จึงได้ร่วมประชุมปรึกษาหารือกันในอันที่จะก่อตั้งสมาคมแพทย์ทหารร่วมกัน ตามแบบอย่างสมาคมแพทย์ทหารในสหรัฐอเมริกา

This image for Image Layouts addon

เพื่อเป็นศูนย์กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นซึ่งกันและกัน ไม่แต่เฉพาะในวงการแพทย์ทหารทั้งสามกองทัพเท่านั้นแต่ยังเป็นสื่อส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างการแพทย์ทหารกับการแพทย์พลเรือนด้วย การประชุมผู้ริเริ่มจัดตั้งสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ได้เริ่มขึ้นเป็นครั้งแรก ณ กรม แพทย์ทหารบก ปากคลองหลอด เมื่อ ๑๑ พ.ค.๙๘ และได้มีการประชุมกันอีกหลายครั้ง ซึ่งต่อมา ก็ได้เชิญหัวหน้าหน่วยขึ้นตรงกรมแพทย์ทหารบกและหัวหน้ากองแพทย์กรมตำรวจมาร่วมปรึกษาหารือด้วย

ที่ประชุมได้ลงมติให้ข้าราชการในสายการแพทย์ของกรมตำรวจมีส่วนร่วมในการบริหารกิจการของสมาคม ตลอดจนการสมัครเข้าเป็นสมาชิกเช่นเดียวกับข้าราชการในสายการแพทย์ของทั้งสามกองทัพ

บรรดาผู้ริเริ่มได้ช่วยกันออกแบบเครื่องหมายของสมาคมและร่างข้อบังคับของสมาคมขึ้น ซึ่งได้มีการแก้ไขยกร่างใหม่อีกหลายครั้ง จนปรากฏผลดังที่ได้นำมาลงมีพิมพ์ไว้ในหนังสือที่ระลึกนี้แล้ว เมื่อได้ร่างข้อบังคับสมาคมขึ้นเรียบร้อยแล้ว ที่ประชุมผู้ริเริ่มจึงได้มอบหมายให้นายแพทย์ใหญ่ทหารบก เป็นผู้ดำเนินการทำเรื่องราวขออนุมัติผู้บังคับบัญชาเพื่อจัดตั้งสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย โดยขอให้อยู่ในความอุปการะของกระทรวง กลาโหม ภายหลังที่นายแพทย์ใหญ่ทหารบกได้ดำเนินการตามที่ได้รับมอบหมาย เมื่อ ๔ ก.พ.๒๕๐๐ แล้ว รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม(คือท่านหัวหน้าคณะปฏิวัติในปัจจุบันนี้) ก็ได้อนุมัติในหลักการ เมื่อ ๒๙ มี.ค.๒๕๐๐ แต่ขอทราบเงื่อนไขที่จะต้องอุปการะตลอดจนความร่วมมือของกองทัพต่างๆ ก่อน กรมแพทย์ของทั้งสามกองทัพจึงได้ประชุมปรึกษาหารือกัน และได้เสนอเงื่อนไขที่จะขอรับความอุปการะจากกระทรวงกลาโหมไปเมื่อ ๑๗ เม.ย.๒๕๐๐ พร้อมทั้งขอเงินอุดหนุนด้วย รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมคนต่อมา (คือท่านรองหัวหน้าคณะปฏิวัติในปัจจุบันนี้) ได้มีบัญชาเมื่อ ๑๘ พ.ค.๒๕๐๐ ให้กรมแพทย์ทหารบก ชี้แจงเหตุผลความจำเป็นที่ต้องขอเงินอุดหนุนสำหรับเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อขอ อนุมัติในหลักการก่อน กรมแพทย์ของทั้งสามกองทัพก็ได้มีการประชุมหารือกันอีกครั้งหนึ่ง และได้บันทึกชี้แจงเหตุผลความจำเป็นไปตามบัญชาของรัฐมนตรีฯ เมื่อ ๑๐ ก.ค.๒๕๐๐ แต่ก่อนที่สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหมจะนำบันทึกนี้เสนอ รัฐมนตรีฯได้สั่งผ่านกองทัพบกมายังกรมแพทย์ทหารบก เมื่อ ๒๕ ก.ค.๒๕๐๐ ให้ดำเนินการขอจดทะเบียนสมาคมต่อกระทรวงมหาดไทยตามกฎหมาย แล้วจึงดำเนินการในเรื่องเงินต่อไปตามข้อเสนอของกรมการเงินกลาโหม กรมแพทย์ทหารบกจึงได้เชิญผู้ริเริ่มมาร่วมประชุมเมื่อ ๘ ส.ค.๒๕๐๐ และที่ประชุมได้ลงมติแต่งตั้งคณะกรรมการอำนวยการสมาคมขึ้นเป็นชุดแรก รวม ๑๑ นาย ตามข้อบังคับของสมาคม คือ

๑. พล.ต.ถนอม อุปถัมภานนท์ เป็น นายก

๒. พล.อ.ต.เจือ ปุญโสนี เป็น รองนายก

๓. พล.ร.ต.หลวงสุวิช่านแพทย์ ร.น. เป็น นายกสำรอง

๔. พ.อ.ชม ศรทัตต์ เป็น เลขาธิการ

๕. พ.อ.พิชัย รัศมิทัต เป็น เหรัญญิก

๖. พล.จ.พิมล นพรัตน เป็น ปฏิคม

๗. พล.ต.สงวน โรจนวงศ์ เป็น กรรมการวิทยาการ

๘. พล.ร.ต.กมล ชัมพุนท์พงศ์ ร.น. เป็น กรรมการวิทยาการ

๙. พล.อ.ต.ทิพย์ นาถสุภา เป็น กรรมการวิทยาการ

๑๐. พล.ต.จ.แสวง วัจนะสวัสดิ์ เป็น กรรมการวิทยาการ

๑๑. น.อ.โกเมท เครือตราชู ร.น. เป็น บรรณารักษ์

คณะกรรมการอำนวยการสมาคมชุดแรกนี้ได้ดำเนินการจดทะเบียนสมาคมตามกฎหมายเสร็จสิ้นแล้วเมื่อ ๑๙ ก.พ. ๐๑ และกรมแพทย์ทหารบกได้บันทึกเรื่องเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมผ่านกองทัพบก เมื่อ ๒๖ ก.พ. ๐๑ เพื่อเรียนให้ทราบถึงการจดทะเบียนสมาคมตาม กฎหมาย กับขอเงินอุดหนุนตั้งแต่ปี ๐๑ เป็นต้นไป พร้อมกับขออนุญาตให้ข้าราชการกลาโหม ประจำการชั้นสัญญาบัตรเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมนี้ โดยไม่ต้องรายงานขออนุญาตผู้บังคับบัญชา ตามลำดับชั้นเป็นรายบุคคล ซึ่งในที่สุดก็ได้รับอนุมัติจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคนต่อมา (คือท่านรองหัวหน้าคณะปฏิวัติในปัจจุบัน) ตามที่กรมแพทย์ทหารบกเสนอไปทุกประการ นับว่า เป็นศุภนิมิตที่ผู้บังคับบัญชาชั้นผู้ใหญ่ทุกท่านที่ได้มีส่วนร่วมพิจารณาเรื่องการจัดตั้งสมาคมแพทย์ ทหารแห่งประเทศไทย ได้เล็งเห็นประโยชน์ของการจัดตั้งสมาคมนี้ จึงได้กรุณาให้ความสนับสนุน เป็นอย่างดีตลอดมาตราบจนกระทั่งการจัดตั้งสมาคมได้สำเร็จลุล่วงสมความปรารถนาของพวกเรา

 

ชาวแพทย์ทหารนอกจากจะได้รับความอุปการะจากกระทรวงกลาโหมแล้ว สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทยยังได้มีหนังสือไปยังกระทรวงกลาโหมเมื่อ ๙ ส.ค.๐๑ ขอให้รัฐบาลสนับสนุนสมาคมนี้ด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมได้มีหนังสือลง ๒๘ ส.ค. ๐๑ถึงเลขาธิการคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหารเพื่อขอให้นำเรื่องนี้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา คณะรัฐมนตรีได้ประชุมปรึกษาเมื่อ ๑๐ ก.ย. ๐๑ ลง มติเห็นชอบด้วยและได้สั่งให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือและสนับสนุนสมาคมแพทย์ทหาร แห่งประเทศไทยต่อไป ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีฝ่ายบริหารได้มีหนังสือแจ้งมาให้กระทรวง กลาโหมทราบเมื่อ ๑๒ ก.ย. ๐๑ พร้อมกับได้แจ้งให้กระทรวงสาธารสุขกระทรวงมหาดไทยทราบ ด้วยแล้วเป็นอันว่าการดำเนินงานของสมาคมในขั้นเริ่มต้นนี้ก็ได้บรรลุผลตามโครงการที่ได้วางไว้แล้ว

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ พล.อ.ต.ทิพย์ นาถสุภา ซึ่งเป็นกรรมการวิทยาการ และเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง สำคัญคนหนึ่งในบรรดาผู้ริเริ่มจัดตั้งสมาคม ได้ขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ ท่านผู้นี้ได้แสดง ความจำนงที่จะขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการตั้งแต่ครั้งสมาคมยังกำลังดำเนินการขออนุญาตจด ทะเบียนตามกฎหมายอยู่ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจึงได้ขอร้องให้ท่านคงเป็นกรรมการต่อ ไปก่อน จนกว่าการจดทะเบียนจะเสร็จสิ้น และเมื่อสมาคมได้ตั้งขึ้นถูกต้องตามกฎหมายแล้ว ท่าน ผู้นี้ก็ยังคงยืนยันที่จะขอลาออกจากตำแหน่งกรรมการ โดยได้ปวารณาว่าถึงแม้จะพ้นจากหน้าที่กรรมการไปแล้วก็ยังยินดีสมัครเป็นสมาชิกของสมาคม และยินดีช่วยเหลือสมาคมในกิจการต่าง ๆ เท่าที่สามารถจะกระทำได้ เมื่อเป็นเช่นนี้ คณะกรรมการอำนวยการสมาคมจึงได้ลงมติในการประชุม เมื่อ ๘ ส.ค. ๐๑ อนุญาตให้ พล.อ.ต.ทิพย์ นาถสุภา ออกจากกรรมการได้ตามที่ขอลา และได้ตกลง แต่ตั้งให้ น.ท.ชลิต จุลโมกข์ สมาชิกสังกัดกองทัพอากาศเป็นกรรมการวิทยาการแทนในขณะนี้สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทยยังไม่มีสถานที่อันเป็นของสมาคมเอง เดิมที เมื่อแรกตั้งจึงต้องอาศัยกรมแพทย์ทหารบกที่ปากคลองหลอดเป็นที่ตั้งสำนักงานของสมาคมชั่วคราว ดังที่ได้จดทะเบียนไว้ ต่อมานายกสมาคมและกรรมการอำนวยการอื่น ๆ อีกหลายท่านที่สังกัด กองทัพเรือ กองทัพอากาศ และกรมตำรวจ ได้พิจารณาเห็นว่าตึกพยาธิวิทยาของกรมแพทย์ทหาร บก ซึ่งตั้งอยู่ที่วังพญาไทนั้นเป็นแหล่งกลางซึ่งสมาชิกจะทำการติดต่อหรือมาร่วมประชุมกันได้สะดวกจึงได้ลงมติโดยความเห็นชอบของนายแพทย์ใหญ่ทหารบกให้ยกป้ายสมาคมขึ้นที่ริมรั้วหน้าตึกพยาธิ วิทยา (ตึกนี้ในปัจจุบันเป็นตึกของสถาบันพยาธิวิทยา กรมแพทย์ทหารบก) และจะได้ขอใช้ห้องใด ห้องหนึ่งในตึกนี้เป็นสำนักงานของสมาคมในโอกาสต่อไปด้วย สำหรับป้ายของสมาคมนั้น บริษัท วิจิตรก่อสร้างได้เอื้อเฟื้อจัดทำให้โดยไม่คิดมูลค่าและทางโรงพยาบา สำหรับป้ายของสมาคมนั้น บริษัท วิจิตรก่อสร้างได้เอื้อเฟื้อจัดทำให้โดยไม่คิดมูลค่าและทางโรงพยาบาล

บริบทหนึ่งของกิจการทหารและตำรวจ ซึ่งเป็นกำลังสำคัญในการปกครองบ้านเมืองหรือ บริหารราชการที่สืบเนื่องกันมานานนับแต่มีคำว่าชาติไทยนั้น งานอนุรักษ์กำลังรบหรืองานบริการ สุขภาพสำหรับทหาร ตำรวจและครอบครัว รวมทั้งประชาชนทั่วไป จึงเป็นงานสำคัญอีกประการหนึ่ง ที่ได้รับการถ่ายทอดกันมาอย่างยาวนานจากบันทึกของเลขาธิการ ในหนังสือวารสารการแพทย์ สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทยในความอุปการะของกระทรวงกลาโหม ปีที่ ๑ เดือนกุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๐๒ ฉบับที่ ๑ ทำให้ทราบว่าความพยายามของนายแพทย์ใหญ่ทั้งสามเหล่าทัพและกรมตำรวจ เมื่อประมาณปี พุทธศักราช ๒๔๙๘ ที่จะจัดตั้งศูนย์กลางสำหรับแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในด้านกิจการแพทย์ทหาร เช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างสหรัฐอเมริกา รวมทั้งมีความมุ่งหมายที่จะส่งเสริมความ สัมพันธ์ระหว่างแพทย์ทหารและแพทย์พลเรือนให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชนมากยิ่งขึ้นความเป็นรูปธรรมชัดเจนเกิดขึ้นเมื่อคณะกรรมการอำนวยการชุดแรกได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในความอุปการะของกระทรวงกลาโหมเรียบร้อย เมื่อวันที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๐๑ ซึ่งถือเป็นวันสถาปนาสมาคมฯ ในการนี้กรมแพทย์ทหารบกได้รายงานขอรับเงินอุดหนุนจากกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่ปีแรกของการดำเนินงาน และยังคงได้รับการสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่องจวบจนถึงปัจจุบัน ซึ่งเป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นว่าผู้บังคับบัญชาชั้นผู้ใหญ่ของกระทรวงกลาโหม ได้ให้ความสำคัญและเล็งเห็นประโยชน์ที่สมาคมฯ ได้ตั้งใจและมุ่งมั่นที่จะดำเนินการให้บรรลุความมุ่งหมายที่กำหนดไว้มาโดยตลอด ๔๔ ปีที่ผ่านมา สมาคมฯ ได้ดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง บนหลักการสำคัญคือการให้โอกาส หมุนเวียนสมาชิกจากทั้งสี่เหล่าทำหน้าที่อำนวยการและบริหารงานในทุกตำแหน่ง เว้นแต่ตำแหน่ง เลขาธิการที่คณะกรรมการอำนวยการแต่ละชุดส่วนใหญ่จะมอบความรับผิดชอบให้สมาชิกจากกรมแพทย์ทหารบกเป็นแกนหลักรับผิดชอบเพื่อเป็นการให้เกียรติและให้ความสำคัญต่อกรมแพทย์ทหารบก ซึ่งเป็นผู้ริเริ่มการจัดตั้งสมาคมฯ แห่งนี้ อีกทั้งยังเห็นว่าการประสานงานทางด้านธุรการและการงบประมาณ ซึ่งเป็นส่วนสนับสนุนที่สำคัญในการดำเนินกิจการสมาคมฯ นั้น กรมแพทย์ทหารบกรับผิดชอบมาโดยตลอด สำหรับผลการดำเนินงานที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน (กุมภาพันธ์ ๒๕๔๕) สำนักงานเลขาธิการขอสรุปบันทึกข้อมูลไว้พอสังเขป ดังนี้

๑. มีคณะกรรมการอำนวยการ จำนวน ๒๒ ชุด

๒. มีสมาชิก จำนวน ๓,๐๐๙ นาย ประกอบด้วย

๒.๑ สมาชิกสามัญ ๒,๘๒๙ นาย

๒.๒ สมาชิกวิสามัญ ๕๗ นาย

๒.๓ สมาชิกกิตติมศักดิ์ ๑๒๓ นาย

๓. สถานที่ตั้งของสมาคม

๓.๑ กรมแพทย์ทหารบก (กองวิทยาการ) อำเภอพญาไท กทม. พ.ศ. ๒๕๐๑ – พ.ศ.๒๕๑๒

๓.๒ สโมสรนายทหาร โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า อำเภอพญาไท กทม. พ.ศ.๒๕๑๒- พ.ศ.๒๕๑๔

๓.๓ วังอัศวิน วิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี กทม. พ.ศ. ๒๕๔๑ –พ.ศ. ๒๕๔๒

๓.๔ แหล่งชุมนุมนายทหารโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เขตราชเทวี กทม. พ.ศ.๒๕๔๒ –ปัจจุบัน

๔. หน่วยงานต่าง ๆ ที่มีข้าราชการและเจ้าหน้าที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ

๔.๑ หน่วยขึ้นตรงของกรมแพทย์ทหารบก และกองทัพบก

๔.๒ หน่วยขึ้นตรงของกรมแพทย์ทหารเรือ และกองทัพเรือ

๔.๓ หน่วยขึ้นตรงของกรมแพทย์ทหารอากาศ และกองทัพอากาศ

๔.๔ หน่วยขึ้นตรงของสำนักงานแพทย์ใหญ่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนัก นายกรัฐมนตรี

๔.๕ โรงงานเภสัชกรรมทหาร ศูนย์การอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและพลังงานทหาร สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม และกระทรวงกลาโหม

๔.๖ โรงพยาบาลทหารผ่านศึก องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก ในพระบรมราชูปถัมภ์

๔.๗ หน่วยขึ้นตรงของสำนักงานแพทย์ทหาร สำนักผู้บัญชาการทหารสูงสุดและกองบัญชาการทหารสูงสุด

๕. กิจกรรมที่สำคัญ

๕.๑ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี รวม ๔๔ ครั้ง (ปีละ ๑ ครั้ง)

๕.๒ จัดการประชุมสัมมนาการศึกษาเคลื่อนที่ รวม ๓๔ ครั้ง

๕.๓ จัดแข่งขันกีฬาแพทย์สี่เหล่า รวม ๓๔ ครั้ง

๕.๔ จัดการประชุมสัมมนาวิชาการย่อย ปีละ ๑ – ๒ ครั้ง

๕.๕ ให้ทุนอุดหนุนการวิจัยสำหรับสมาชิก รวม ๖๑ เรื่อง

บทสุดท้ายแห่งบันทึกฉบับนี้ จะขออนุญาตบันทึกเรื่องราวที่เป็นมงคลยิ่ง เป็นเรื่องที่แสดงให้เห็นถึงพลัง ศักยภาพ รวมทั้งความมุ่งมั่นของคณะกรรมการอำนวยการ ชุดที่ ๒๒ ที่ได้ทุ่มเทในการสร้างเสริมเกี่ยวกับศักดิ์ศรีแห่งสถาบันแพทย์ทหารตำรวจแห่งนี้คือการได้รับพระมหากรุณาธิคุณให้อัญเชิญสัญลักษณ์พระมหาพิชัยมงกุฎแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ มาเป็นองค์ประกอบสำคัญของเครื่องหมายสมาคมฯ และสิ่งที่เป็นมหามงคลอย่างยิ่ง สมควรเทิดทูนและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติราชการภายใต้ฝ่าลออลธุลีพระบาท คือการที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงรับสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทยไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ ตั้งแต่วนที่ ๔ กรกฎาคม พุทธศักราช ๒๕๔๔อันเป็นผลมาจากการที่เป็นสมาคมวิชาชีพที่ดำเนินงานมาอย่างยาวนาน สมาชิกมีโอกาสถวายงานรับใช้แด่องค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชมหาราช และพระบรมวงศานุวงศ์อย่างใกล้ชิดจำนวนมาก ทั้งนี้ ท่านองคมนตรีศาสตราจารย์นายแพทย์เกษม วัฒนชัย สมาชิกกิตติมศักดิ์ของสมาคมฯ ได้อัญเชิญพระกระแสรับสั่งให้เหล่าแพทย์ทหารตำรวจได้ช่วยเหลือบรรเทาความทุกข์ยากของประชาชนในถิ่นห่างไกลทุรกันดารให้มากยิ่งขึ้นซึ่งแพทย์ทหารตำรวจจะมีขีดความสามารถและมีโอกาสที่จะสนองพระราชกระแสดังกล่าวดีกว่าแพทย์พลเรือนอื่นๆ ซึ่งคงเป็นโจทย์สำคัญที่คณะกรรมการอำนวยการของสมาคมฯ ชุดต่อ ๆ ไป จักต้องพิจารณาบทบาทหน้าที่ของสมาคมฯและแปรเปลี่ยนให้เป็นกิจกรรมที่เป็นรูปธรรมต่อไป

พล.ต.ประสาท เหล่าถาวร*

พ.อ.ชะเลง ฉายวิโรจน์**

มีคำถามอยู่เสมอว่ามีเลขาธิการแล้วทำไมต้องมีเลขานุการ องค์กรเอกชนสาธารณะประโยชน์หรือ Non Groverment Organization (NGO) ที่มีการบริหารจัดการในรูปแบบของสมาคม, มูลนิธิ, สภา, สมัชชา, ชมรม, กลุ่มสาขาวิชาชีพ เมื่อเข้าไปศึกษาระบบการบริหารจัดการองค์กรส่วนใหญ่มีการจัดหน่วยที่มี นายก, ประธาน, ผู้จัดการ, เลขาธิการ, เลขานุการ ใช้ชื่อแตกต่างกันออกไปตามความนิยมชมชอบของผู้ก่อการหรือผู้ก่อตั้งองค์กรนั้นๆ ไม่มีกฎระเบียบที่ชัดเจนเป็นบรรทัดฐาน เมื่อลองเปิดพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2542 เลขาธิการ น.ผู้ดำรงตำแหน่งบริหารระดับสูงตำแหน่งหนึ่ง เช่น เลขาธิการสหประชาชาติ เลขาธิการราชบัณฑิตยสถาน เลขาธิการรัฐสภา เลขาธิการสมาคม. (ส.เลขาธิการี ว่า เสมียนของพระเจ้าแผ่นดิน). เลขานุการ น. ผู้มีหน้าที่เกี่ยวข้องกับหนังสือหรืออื่นๆ ตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง. SB-EDS Moderm English-Thai Dictionary ฉบับ ดร.รักษ์ เที่ยงบูรณธรรม พ.ศ. 2541 :Secretary General เลขาธิการใหญ่, หัวหน้าหน่วยงาน. Secretary เลขานุการ, เลขาธิการ, เลขานุการส่วนตัว, ผู้ทำหนังสือ, รัฐมนตรี, เจ้าหน้าที่ชั้นผู้ใหญ่ของรัฐ, โต๊ะเขียนหนังสือแบบหนึ่งที่มีตู้หนังสือ. Sec-re-tary secretaries, confidential employee, secretary, fr. 1: one employed to handle correspondence and manage routine and detail work for a superior 2 a: an officer of a business concern who may kiip records of direc-tors’ and stockholders’ meetings and of stock ownership and transfer and help supervise the company’s legal interests b: an officer of an organization or society responsible for its records and correspondence. มีผู้สรุปไว้ง่ายๆ ว่า เลขาธิการ หมายถึงผู้ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานธุรการของสมาคมทั้งหมดเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่สมาคมในการปฏิบัติกิจการของสมาคม และปฏิบัติตามคำสั่งของนายกสมาคม ตลอดจนทำหน้าที่เป็นเลขานุการในการประชุมต่างๆ ของสมาคม เลขานุการ หมายถึงเป็นผู้ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บริหารขององค์กรในการบริหารจัดการงานขององค์กรให้บรรลุผลสำเร็จตามนโยบาย และเป้าหมายขององค์กร ตลอดจนช่วยแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการบริหารจัดการให้เป็นไปด้วยความราบรื่น และรวดเร็ว

สำหรับสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ก็เช่นกัน ตำแหน่งเลขาธิการเป็นตำแหน่งหลักกล่าว คือเป็นคณะกรรมการอำนวยการตามข้อบังคับสมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ พ.ศ.........ส่วนตำแหน่งเลขานุการ เป็นเจ้าหน้าที่สมาคมฯ ที่ได้รับการแต่งตั้งเพิ่มเติม เพื่อช่วยงานของนายกสมาคมฯ โดยหมุนเวียนไปตามวาระคือรอบละ 2 ปี ต่อเหล่า ดังนั้นหลักนิยมของสมาคมฯ เลขานุการจึงเป็นสมาชิกที่เป็นเหล่าเดียวกับนายกสมาคมฯ ที่จะช่วยประสานการทำงานให้คณะกรรมการและเหล่าทัพอื่นๆ ให้สอดคล้องสัมพันธ์และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การทำงานในลักษณะบูรณาการหรือการสร้างเครือข่ายความร่วมมือ Networking เป็นความคิดที่อดีตผู้บริหารสายแพทย์สี่เหล่าเล็งเห็นประโยชน์และนำมาใช้มากว่าสี่สิบปีแล้ว ถ้าจะใช้ภาษาสมัยปัจจุบันเรียกว่า มีวิสัยทัศน์ (Vision) ที่ก้าวไกลมากว่าครึ่งศตวรรษแสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้นำทางปัญญาของสมาชิกเหล่าแพทย์ที่มีมาอย่างต่อเนื่อง ในส่วนของตำแหน่งเลขาธิการ ที่ส่วนใหญ่เป็นของเหล่าทหารบกมาโดยตลอดนั้น ต้องมาศึกษาบทเรียนจากอดีตของ พล.ต.วิชัย ชัยประภา เลขาธิการ คนที่ 10 ชุดที่ 13-19 เล่าให้ฟังว่า

บทสุดท้าย หากเปลี่ยนผ่านนายกสมาคมฯ เหมือนหัวเรือ ที่เป็นผู้ชี้นำทิศทางขององค์กร เลขาธิการก็คงเหมือนนายท้ายเรือให้นาวานั้นๆ บรรลุเป้าหมาย คณะกรรมการเปรียบกับฝีพายกราบซ้ายขวา ที่เป็นเครื่องมือช่วยเร่งความสำเร็จ เลขานุการควรเป็นผู้ทำหน้าที่ นายธงให้สัญญาณธงหรือคอยชี้ทางคอยโบกให้จังหวะองค์กรนั้นๆ ถึงจะดำเนินธุระกรรมต่างๆ ให้เป็นไปตามสิ่งที่วาดหวังได้สำเร็จ สำหรับผู้ช่วยเลขานุการ มีหน้าที่เป็นลูกมือเลขาธิการและเลขานุการในส่วนของเลขาธิการด้านพ่อบ้านดูแลการดำเนินงานของสำนักงานเลขาธิการสมาคมฯ เบื้องหลัง

สมาคมแพทย์ทหารแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์

สำนักงานเลขาธิการ พ.ท.ท.

ห้องประชุมพรสวรรค์ ชั้น2 ตึกศัลยกรรม-อายุรกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

315 ถนนราชวิถี แขวงทุ่งพญาไท เขตราชเทวี กรุงเทพมหานคร

โทร. 0-2354-7592

email : info@amsthai.org